สวัสดีครับทุกคน วันนี้ครูเจจะช่วยแนะนำวิธีการเลือกเพลงเพื่อให้เหมาะกับระดับการพัฒนาเสียงของแต่ละคนนะครับ เคยไหมครับที่เวลาร้องเพลงแล้วรู้สึกว่าบางเพลงร้องง่าย ร้องยากไม่เหมือนกันทั้งๆที่อยู่ในคีย์เดียวกัน และโน้ตตัวสูงหรือต่ำก็พอๆกัน เวลาเราจะเลือกเพลงที่ร้อง เราควรจะพิจารณาเรื่อง เมโลดี้ของเพลง และความช้า ความเร็วของเพลง และเพลงนี้มีเนื้อเพลงที่เยอะหรือไม่ และที่สำคัญคือเราจะต้องดูด้วยว่าเรากำลังฝึกอะไรในตัวเราให้พัฒนานะครับ เดี๋ยวครูเจจะแบ่งออกตามSkill การร้องของแต่ละคนนะครับ
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มร้องเพลงและยังไม่ถนัดในการควบคุมเสียงมากนัก เราควรจะเลือกเพลงที่มีจังหวะปานกลางหรือเร็วและมีความกว้างของเสียงที่ไม่มากเกินไปนะครับ ที่แนะนำให้เลือกเพลงมีจังหวะหน่อยก็เพราะว่าเราจะเป็นแกมบังคับให้เส้นเสียงทำงานอย่างจริงจังและช่วยสร้างเนื้อเสียงที่ชัดเจน เพลงแบบมีจังหวะ ตามธรรมชาติแล้วจะทำให้เรามีความตื่นตัว เสียงก็จะไม่มีลมเยอะเพราะเนื้อเพลงและจังหวะจะไม่เปิดโอกาสให้ปล่อยลมมากเกินไป แถมเวลาร้องยังสนุกด้วย และลักษณะของเสียงที่ครูเจอยากให้โฟกัสคือเสียงChest Voice เสียงChest เป็นเสียงที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นเสียงที่ทุกคนต้องใช้ให้ได้ดีและจะเป็นฐานให้กับเนื้อเสียงทุกช่วงเสียงครับ เพลงที่มีเมโลดี้ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเสียง Chest และไม่สูงเกิน 1st Bridge มาก ยกตัวอย่างเช่น เพลง “ชักดิ้นชักงอ” ของพลอยชมพู, ”อยู่ๆก็มาปรากฎตัวในหัวใจ” ของ พิจิกา เพลง “คิดถึงนะ” ของ แพรว “You, You, You” เอิ้ต ภัทรวี, เพลง “สิ่งสำคัญ(คีย์C) ของ ดา เอ็นโดฟิน, “Try” ของ Colbie Calliat และเพลง Standardต่างๆ เช่นเพลง “Fly me to the moon” หรือ “All of me” (เพลงแจ้สนะครับไม่ใช่ของ John Legend) อะไรประมานนี้นะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นครูผู้สอนสามารถเลือกเพลงอะไรก็ได้ตราบใดที่ปรับคีย์ให้ไม่สูงเกินไปนะครับ
สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานมาบ้างแล้วและกำลังฝึกเทคนิคเพื่อขยายช่วงเสียง สามารถร้องได้ทุกจังหวะแต่ว่าจะต้องเลือกเพลงที่มีโน้ตสูงกว่าช่วงFirst Bridge โดยที่เมโลดี้สูงไม่ต้องโหนมากไปและลากไม่ยาวเกินไป และโน้ตที่สูงไม่ใช่โน้ตส่วนใหญ่ของเพลงในแต่ละท่อนนะครับ นึกถึงเพลงที่มีโน้ตสูงแบบแตะๆแล้วก็ลง เพลงตัวอย่างก็เช่นเพลง “จากนี้ไปจนนิรันดร์” เอ้ะ จิรากร, “ไกลแค่ไหนคือไกล้” ของ Getsunova เพลง “All of me ของ John Legend, “Home” ของ Michael Buble, เพลง “I’m yours” ของ Jason Mraz, “A Team” ของ Ed Sheeran
สำหรับผู้ที่ฝึกร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอและมีเทคนิคการร้องที่ค่อนข้างแข็งแรงแล้ว วัตถูประสงค์ในการเลือกเพลงสำหรับนักร้องกลุ่มนี้คือการฝึกเพื่อพัฒนาและท้าทายความสามารถทางการร้องของตัวเอง เพลงที่เลือกควรจะเป็นเพลงที่มีโน้ตร้องผ่่านช่วงเสียงอย่างน้อย 2 ช่วง หรือมีโน้ตที่อยู่ในช่วงต่อของเสียงเยอะหน่อย เพราะว่าเราต้องการสร้างความยืดหยุ่นของเสียง และความราบลื่นในการร้องผ่านช่วงต่อของเสียง เพลงแบบนี้จะเป็นเพลงที่ร้องยากและเหนื่อยง่าย เวลาฝึกควรจะฝึกกับครูที่สามารถสอนเราให้ออกเสียงอย่างถูกวิธีนะครับ เพลงแนวนี้คือเพลงที่เราฟังแล้วเสียงสูงๆ และมีการลากเสียงเยอะๆนั่นแหละครับ เพลงละครบอร์ดเวย์ต่างๆเช่น “On my own” จาก Les Miserable หรือ “I’d give my life for you” จาก Miss Saigon หรือเพลง “สิ่งที่มันกำลังเกิด” เอ๊ะ จิระกร, เพลง “Thinking out loud” ของ Ed Sheeran, “Home” จากละครเพลง “Beauty and the Beast”, “Home” จาก ละครเพลงเรื่อง “The Wiz”, เพลง “Problem” ของ Ariana Grande ( จะว่าไปเพลงของคนนี้ร้องยากทั้งนั้น 555)
คงจะพอเห็นภาพแล้วนะครับ อย่าลืมว่าที่ครูเจเขียนบทความนี้เพื่อเป็นไกด้ให้เราในการฝึกการเลือกเพลงนะครับ และเพลงที่ครูเจเลือกนี้ส่วนใหญ่ครูเจเลือกที่ตรงเมโลดี้ของเพลง และความยาก ง่ายของเพลงนะครับ ไม่ได้เลือกที่ลักษณะเสียงของนักร้องต้นฉบับนะครับ อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าเราเรียนกับครูที่เข้าใจการพัฒนาเสียงและมีความสามารถทางดนตรีที่ดี ครูจะสามารถปรับคีย์แต่และเพลงให้เหมาะกับทักษะและเป้าหมายการพัฒนาเสียงของเรานะครับ ฝากข้อคิดไว้นิดหนึ่งว่า การฝึกฝนทำให้เราเก่งขึ้นได้นะครับ แต่ถ้าอยากจะร้องเพลงให้เพราะ ต้องอย่าลืมร้องจากใจนะครับ
related posts
» Blogs » เลือกเพลงอย่างไรให้เหมาะกับการพัฒนาเสียงร้องของเรา
GMM Grammy, Jay Veerayano, Performer, Singer, Singing, Singing technique, Vocal coach, vocal training, voice training, ครูสอนร้องเพลง, ครูเจ, ประกวดร้องเพลง, ฝึกร้อง, สอนร้องเพลง, เรียนร้องเพลง