สวัสดีครับทุกคน เมื่อวันก่อนครูเจได้มีโอกาสร่วมไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการประกวดร้องเพลง CU Singing Contest เป็นครั้งแรกมา วันนั้นทุกคนที่เข้าประกวดรอบสุดท้ายร้องเพลงเก่งและเสียงดีหมดทุกคนเลยครับ ทีมงานที่จัดงานก็ทำงานได้อย่างดีน่าประทับใจ วันนั้นรู้สึกดีมากครับที่เห็นเด็กรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจในการร้องเพลงอย่างจริงจัง
สืบเนื่องจากวันนั้น คณะกรรมการมีการประชุมกันก่อนการประกวดจะเริ่มว่า จะให้คะแนนอย่างไรดี ในช่องให้คะแนนก็มีการแบ่งคะแนนออกเป็นหมวดหมู่ เช่น เนื้อเสียง การแสดงบนเวที การออกเสียง ท่วงทำนอง (จริงๆแล้วมีหลายหัวข้อมากแต่ก็ประมานนี้นะครับ) ทางคณะกรรมการทุกคนก็มีการปรับความเข้าใจในการให้คะแนนเพื่อที่จะให้มีแนวทางเดียวกันและให้คะแนนได้ง่ายๆ แล้วก็มีท่านกรรมการท่านหนึ่งถามประมาณว่า เราควรจะให้คะแนนเรื่องความยากความง่ายของเพลงอย่างไรดี ควรจะให้เพลงยากมากคะแนนสูงกว่าเพลงที่ร้องง่ายดีไหม หรือจะให้ที่การแสดงโดยรวมไปเลย พอครูเจฟังแล้วก็เลยคิดว่าจะเอาข้อคิดมาฝากทุกคนที่กำลังจะเข้าประกวดหรือออดิชั่นต่างๆนะครับ
การเลือกเพลง เพลงยาก vs เพลงปานกลาง ตรงนี้ในส่วนการเลือกเพลงครูเจอยากให้ดูที่เวทีประกวดก่อนนะครับ ถ้าเป็นประกวดใหญ่ๆและเป็นเวทีที่เน้นเรื่องการร้องควรจะเลือกเพลงที่มีความยากพอสมควรถึงยากมาก แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ระดับความสามารถของเราด้วยนะครับ อย่าเลือกเพลงที่ยากเกินกว่าที่เราจะสามารถทำได้เต็มที่ถึงแม้ในวันที่เราสภาพไม่เต็มร้อย ถ้าเพลงที่เลือกเราไม่สามารถร้องให้ดีแบบคงเส้นคงวาอย่างน้อย 10 ครั้งในเวลา 2-3 วัน แปลว่าเพลงนั้นอาจจะยากไป ระดับความเสี่ยงจะอยู่ในระดับสูง อย่าลืมนะครับว่าประกวดร้องเพลงไม่ใช่กีฬาแบบที่มีคะแนนความยากเช่นยิมนาสติกหรือกระโดดน้ำ เพราะว่าเอาเข้าจริงๆมันอยู่ที่การแสดงโดยรวมมากกว่า ถ้าครูเจต้องเลือกระหว่างนักร้องสองที่มีน้ำเสียงดีพอๆกัน แต่คนหนึ่งร้องเพลงยากมาก แต่อีกคนร้องเพลงยากน้อยลงมาหน่อย แต่คนที่ร้องเพลงยากมากมีพลาดไม่เยอะแต่ได้ยินชัด กับอีกคนที่ร้องไม่มีพลาดเลย ครูเจจะเลือกคนที่ไม่พลาดเลยครับ เพราะว่าสิ่งที่สำคัญที่เราจะลืมไม่ได้ในฐานะนักร้องนักแสดงคือสิ่งที่ผู้ชมรับจากเรานะครับ คนที่ร้องเพลงยากมากและมีพลาด สิ่งที่คนดูได้ยินก็คือจะต้องลุ้นว่าจะไปไหวไหม ถ้าเราร้องแล้วไปรอดก็ดีไป เอาเข้าแล้วมันก็คล้ายๆกับการเดิมพันนะครับ ยากมากก็เสี่ยงมาก ยากน้อยก็เสี่ยงน้อย แต่การหมั่นฝึกฝนเรื่องเทคนิคการร้องเพลงและการรักษาสุขภาพเสียงที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ทั้งสองแบบ
สรุปแบบง่ายๆก็คือเลือกเพลงให้เหมาะกับตัวเอง เหมาะกับเวที และเหมาะกับวัตถุประสงค์ของการประกวด และเลือกเพลงที่ให้เราโชว์ความสามารถได้อย่างเต็มที่ และต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่เราในฐานะนักร้องต้องให้ความสำคัญที่สุดคือการสร้างความประทับใจให้กับคนดูทุกคนนะครับ
related posts
» Blogs » เลือกเพลงไปออดิชั่นอย่างไรดีถึงจะเข้าตากรรมการ
Singing, Singing technique, Vocal coach, vocal training, voice training, ครูสอนร้องเพลง, ครูเจ, ประกวดร้องเพลง, ฝึกร้อง, สอนร้องเพลง, เรียนร้องเพลง
« การดูแลรักษาเสียงสำหรับนักร้องและผู้ที่ต้องใช้เสียงเยอะ เลือกเพลงอย่างไรให้เหมาะกับการพัฒนาเสียงร้องของเรา »